แทงคอ รปภ.ดับ มือมีดเพิ่งพ้นโทษ ยังใส่กำไลอีเอ็ม อ้างถูกมองหน้า-ให้ของลับ

หนุ่มวัย 38 ปี เพิ่งพ้นโทษ ออกจากคุกมาหมาดๆ หลังติดคดีร่วมกันปล้นฯ ก่อเหตุแทงคอ รปภ.ดับสยองริมถนนติวานนท์ อ้างถูกคนตายมองหน้า-พูดให้ของลับ พบยังใส่กำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 พ.ต.ท.รพีพงษ์ จิตต์บุญธรรม (สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุชายถูกแทงเสียชีวิต ริมถนน ติวานนท์ หน้าชุมชนริมคลองบางตลาด ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี หลังรับแจ้ง รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา ผกก., พ.ต.ท.ภาสกรไชย ทวีวงศ์ รอง ผกก.สส., กำลังตำรวจสืบสวนและสายตรวจ แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบนทางเท้าริมถนนติวานนท์ เชิงสะพานข้ามคลองบางตลาด ขาออกมุ่งหน้ากรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น สีดำ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกมีดแทงลำคอด้านซ้าย 1 แผล ต้นแขนซ้าย 1 แผล กลางหลัง 3 แผล ทราบชื่อผู้เสียคือ นายเติมศักดิ์ ไทยเจริญพงศ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 ซอยติวานนท์ 54 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี ทำงานเป็น รปภ.คอนโด ย่านเกษตร ใกล้ศพพบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่น แอร็อกซ์  สีดำ-แดง ทะเบียน 1 ขก 7942 กรุงเทพมหานคร 

ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรอยเลือดของผู้ตายตามทางลงไปยังทางเดินเลียบคลองบางตลาด และพบรองเท้าแตะเปื้อนเลือดของผู้ตายตกอยู่ พบมีดพับยาวประมาณ 5 นิ้ว วางอยู่หน้าเพิงพักไม่มีเลขที่ใต้สะพาน ตรวจสอบพบนายมานะ เมฆสุวรรณ หรือ นะ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี นอนหลับอยู่ มีบาดแผลถูกมีดบาดที่นิ้วมือขวาจึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก

นางปราณี เมฆสุวรรณ อายุ 59 ปี อาของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า มีคนร้องตะโกน “มีคนถูกแทง” จึงรีบวิ่งไปดูพบคนตายนอนจอมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว ตนไม่รู้จักว่าผู้ตายเป็นใคร ส่วนคนแทงเป็นหลานชายของตน อาศัยอยู่ที่ห้องดังกล่าว ซึ่งอาศัยอยู่คนเดียวและมีอาการทางป่วยทางจิต ตอนกลางวันตนจะมาอยู่เป็นเพื่อน ส่วนกลางคืนจะไม่ได้มาอยู่ด้วย เพราะกลัวจะถูกหลานชายคุ้มดีคุ้มร้าย ทำร้าย

ต่อมา นางกิมเตียง มั่งคงพรวิเชียร อายุ 65 ปี แม่ผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่เกิดเหตุ ก่อนจะปล่อยโฮร้องไห้ด้วยความเสียใจ ให้การว่าตนกับลูกชายอาศัยอยู่ในซอยทรายทองใกล้กับที่เกิดเหตุ เมื่อเช้าลูกชายขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป บอกว่าจะไปซื้อของที่ตลาดประชานิเวศน์ 3 จากนั้นโทรติดต่อลูกไม่ได้ จนกระทั่งรู้สึกสังหรณ์ใจ พอทราบว่ามีเหตุแทงกันตายจึงแวะมาดู กลายเป็นลูกชายถูกแทงเสียชีวิตแล้ว โดยลูกชายทำงานเป็น รปภ.อยู่แถวเกษตร

สอบสวน นายมานะ ให้การรับสารภาพอ้างว่า ขณะเดินเล่นอยู่ถนนเลียบคลอง ผู้ตายเดินผ่านแล้วมองหน้ากัน ก่อนผู้ตายจะพูดให้ของลับ ตนได้ชักมีดพับออกมาแทงคอ และตามลำตัวหลายครั้ง แล้วผู้ตายได้วิ่งหลบหนีขึ้นไปบนถนน ตนไม่ทราบว่าตาย หลังก่อเหตุได้กลับเข้าบ้านไปนอน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเรียกและสอบถาม ตนยอมรับว่าทำจริง ตนไม่เคยรู้จักกับผู้ตายมาก่อน แต่เคยเห็นเดินผ่านหลายครั้ง 

จากการตรวจสอบประวัตินายมานะ พบว่าเคยถูกดำเนินคดี ร่วมกันปล้นฯ ศาลตัดสิน 11 ปี, คดีจำหน่ายยาเสพติด, คดีจำหน่ายยาเสพติด, ล่าสุดคดีทำร้ายร่างกาย และจำหน่ายยาเสพติด ศาลตัดสินจำคุก 6 ปี 5 เดือน เพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 3 ก.พ.66 โดยทางเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจังหวัดนนทบุรีได้ใส่กำไลอีเอ็มที่ข้อเท้าเพื่อควบคุมความประพฤติอยู่ ก่อนมาก่อเหตุฆ่าคนตาย

หลังสอบสวนได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ดำเนินคดี 

เครดิต : https://www.thairath.co.th/news/crime/2691221

Related Articles

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Stay Connected

0FansLike
3,876FollowersFollow
0SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles